วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

ดาวทับลัคนา

ดาวทับลัคนา


1.        อาทิตย์ทับลัคน์ มักร้อนใจต้องจากที่อยู่ มีเหตุต้องจร ต้องเดินทาง อยู่ไม่ติดที่
2.        จันทร์ทับลัคน์  จะมีคนมาสู่มาหา จะมีลาภ มีลาภ อาหารการกิน
3.        อังคารทับลัคน์  ระวังอุบัติเหตุ  เรื่องยุ่งยากต่างๆ ข้าวของหาย เจ็บไข้ เกิดเหตุร้ายต่างๆ ถ้ามีบาปเคราะห์กระหน่ำซ้ำเติม จะเคราะห์ร้ายหนัก อาจถึงตายได้
4.        พุธทับลัคน์  มักมีเหตุร้ายต่างๆ  ข้อต้องพิจารณาดาวพุธเดิมในดวงชะตาด้วย ถ้าพุธเป็นเจ้าเรือน อริ มรณะ วินาศ หรือดาวพุธเดิมอยู่ในเรือนทุสถานภพ เมื่อโคจรมาทับลัคน์ก็ย่อมไม่ดี
5.        พฤหัสบดีทับลัคน์  ถ้าเป็นชายจะได้อุปสมบท ได้เลื่อนตำแหน่ง หน้าที่การงาน ได้เดินทาง ผู้ใหญ่อุปถัมภ์
6.        ศุกร์ทับลัคน์  จะมีลาภสารพัด
7.        เสาร์ทับลัคน์  มักมีเรื่องทุกข์ใจ มักเจ็บไข้ได้ป่วย จะเป็นโรคเรื้อรัง จะเป็นความ ค้าขายขาดทุน เป็นระยะเสื่อมลาภ เสื่อมผล
8.        ราหูทับลัคน์  เคราะห์ร้ายหนัก แต่ต้องพิจารณาราหูเดิมประกอบด้วย สถิติ ราหูเดิมอยู่ปัตนิ จรมาทับลัคน์ ได้คู่ครอง ราหูทับลัคน์สถิติแน่นอน มักจะวุ่น มักถูกใส่ร้ายป้ายสี ผู้ใหญ่ให้โทษ โดนกลั่นแกล้ง โดนบัตรสนเท่ห์ ถูกทรยศ ถูกหักหลัง บริวารมักไม่ซื่อ บางคนหมดตัว เจ็บหนัก ผ่าตัด ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตก็มีมาก
9.        เกตุทับลัคน์  มักจะวุ่นๆ  ให้ระวังสุขภาพ เหตุร้ายต่างๆ
10.      มฤตยูทับลัคน์  มักเปลี่ยนแปลงชีวิต มักจะเดินทาง ทำให้ชีวิตผันแปร จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ง่าย
11.      เนปจูนทับลัคน์  ให้ระวังชีวิตเต็มไปด้วยการท่องเที่ยว เดินทาง โยกย้ายภูมิลำเนา ต้องเข้าสังคมชีวิต      มั่วสุมกับอบายมุขต่างๆ การเข้าสมาคม
12.     พลูโตทับลัคน์ ถ้ามีบาปเคราะห์เข้ามาสุมก็ให้โทษ จึงควรระวังให้มากด้วย
หมายเหตุ ดาวเคราะห์ที่จรทับลัคน์ ถ้าเป็นเจ้าเรือนอริ มรณะ วินาศ หรือ อยู่ในเรือนอริ มรณะ วินาศ มาก่อนก็ให้โทษ ยิ่งเป็นบาปเคราะห์ด้วยแล้วยิ่งให้โทษเป็นทวีคูณ และเป็นเจ้าเรือนภพอะไร หรืออยู่ในภพอะไรมาก่อน เมื่อจรมาทับลัคน์ย่อมต้องนำสภาพเกี่ยวกับภพนั้นๆ มาร่วมพิจารณาด้วย หรือดาวใดเข้ามาร่วมทับเป็นเจ้าเรือนภพอะไร อยู่ในเรือนอะไรเหล่านี้ จะต้องนำมาผสมผสานในการทำนายด้วย

ดาวเคราะห์ผสมกันบอกลักษณะบุคคล

ดาวเคราะห์ผสมกันบอกลักษณะบุคคล



เมื่อดาวเคราะห์ผสมกันอยู่ร่วมราศีเดียวกัน จะบอกลักษณะของบุคคลนั้น ๆ ตามรูปดาวเคราะห์ที่มาผสมกัน เพื่อประโยชน์ในการพยากรณ์ดวงชาตากำเนิด และดาวเคราะห์

๑.   ดาว ๑-๒ อาทิตย์ผสมจันทร์  =  ลักษณะเป็นคนผิวหม่น คือไม่ดำแต่ก็ไม่ขาว รูปร่างสันทัดธรรมดา อุปนิสัยความเป็นอยู่จะโอนเอียงไปทางใด สุดแท้แต่ดวงนั้นจะอยู่ในธาตุของใคร ถ้าอยู่ราศีธาตุไฟ หรือ ธาตุลม หรือเรือนเกษตรของอาทิตย์ก็โอนเอียงหนักไปทางอาทิตย์ หากอยู่ในราศีธาตุดิน ธาตุน้ำ หรือเรือนเกษตรของจันทร์ ก็โอนเอียงหนักไปทางจันทร์ ทั้งนี้ในข้อต่อ ๆ ไป ให้ถือการพยากรณแบบเดียวกันหมด
๒.  ดาว ๑-๓ อาทิตย์ผสมอังคาร  =  ลักษณะเป็นคนดำ รูปร่างสันทัด ตาโตไม่ทิ้งรูปอังคาร ผมหยิก ดุร้าย บอกลักษณะความเป็นนักเลงเต็มตัว
๓.  ดาว ๑-๔ อาทิตย์ผสมพุธ =  ลักษณะดำแดง รูปร่างสันทัด ดวงหน้ามักยาว หรือรูปไข่ ช่างพูด พูดเร็ว เร็วจนรน
๔.  ดาว ๑-๕ อาทิตย์ผสมพฤหัสบดี = ลักษณะดำแดง รูปร่างบางเล็ก และมักมีแผลเป็นที่บริเวณหน้าผาก ไม่ทิ้งรูปเดิมจากพฤหัสบดี
๕.  ดาว ๑-๖ อาทิตย์ผสมศุกร์ = ลักษณะดำสันทัด รูปร่างท้วม หรือท้วมเตี้ย
๖.   ดาว ๑-๗ อาทิตย์ผสมเสาร์ = ลักษณะดำสันทัด หลังค่อมไม่ทิ้งรูปเสาร์เดิม
๗.  ดาว ๑-๘ อาทิตย์ผสมราหู = ลักษณะดำท้วม แต่พูดจาท่าทางไว้ตัวแบบอาทิตย์
๘.  ดาว ๑-๙ อาทิตย์ผสมเกตุ =  ลักษณะดำแดง เตี้ยแคระหยิ่งยะโสทะนงตัว กร้าว ร้าวสังเกตดี ๆ คล้ายอังคาร แต่หากเตี้ยแคระ ตรงข้ามกับอังคารซึ่งบางโปร่ง
๙.  ดาว ๒-๓ จันทร์ผสมอังคาร =  ลักษณะดำแดงบางโปร่งแต่ดวงหน้าไปทางจันทร์ คือค่อนข้างจะกลม และศีรษะมักโต ดวงตาก็โต ส่อให้เห็นเค้าเดิม ของอังคาร
๑๐. ดาว ๒-๔ จันทร์ผสมพุธ = ลักษณะขาวบาง ดวงหน้ายาว แต่รูปมิค่อยงามเหมือนจันทร์แท้ ๆ เพราะเป็นรูปผสม
๑๑.  ดาว ๒-๕ จันทร์ผสมพฤหัสบดี = ลักษณะขาวเหลือง ร่างเล็กบาง ดวงหน้ามักกลม ศีรษะโต มีแผลเป็นบริเวณหน้าผากเค้าเดิมของพฤหัสบดี
๑๒. ดาว ๒-๖  จันทร์ผสมศุกร์ = ลักษณะท้วม ผิวเนื้อขาวเหลือง  ดวงหน้ามักค่อนข้างกลมศีรษะโต
            กว่าศุกร์ธรรมดาแท้ ๆ
๑๓. ดาว ๒-๗ จันทร์ผสมเสาร์ = ลักษณะดำแดง บางโปร่ง หลังค้อมแบบเสาร์  ศีรษะโตดวงหน้าค่อนข้างกลม หรือรูปไข่ ตามปกติเสาร์ผิวดำ แต่เมื่อผสมกับจันทร์ซึ่งเหลืองจึงเป็นเพียงดำแดง และศีรษะโตแบบผสม
๑๔. ดาว ๒-๘ จันทร์ผสมราหู = ลักษณะดำท้วม ดวงหน้ามักค่อนข้างกลม และศีรษะโต ราหูผสมนี้รูปร่างงามกว่าราหูแท้ ๆ ซึ่งดำและอ้วน ตุ้มเปรอะ
๑๕. ดาว ๒-๙ จันทร์ผสมเกตุ = ลักษณะขาวงเตี้ยแคระ ถอดแบบเกตุออกมาชัด ๆ
๑๖.  ดาว ๓-๔ อังคารผสมพุธ = ลักษณะดำแดงบางโปร่งดวงตาโต ผมหยิกหยักศก แต่ไม่กร้าว ร้าวและมุทะลุดุดันดังเช่นอังคารแท้ ๆ
๑๗. ดาว ๓-๕ อังคารผสมพฤหัสบดี = ลักษณะดำแดงบางเล็ก ดวงตาโต ผมหยิกหยักศก และมีตำหนิแผลเป็นที่บริเวณหน้าผาก
๑๘. ดาว ๓-๖ อังคารผสมศุกร์ =  ลักษณะดำแดงท้วม หรือขาวท้วม ดวงหน้ารูปไข่ ดวงตาโต ผมหยิกหยักศก
๑๙.  ดาว ๓-๗ อังคารผสมเสาร์ = ลักษณะสูงดำ หลังค่อม ดวงตาโต ผมหยิกหยักศก ดวงหน้ายาวเป็นกระดูก
๒๐.  ดาว ๓-๘ อังคารผสมราหู = ลักษณะดำท้วม ดวงตาโต ผมหยิกหยักศก ดวงหน้ายาวเป็นกระดูก
๒๑.  ดาว ๓-๙ อังคาผสมเกตุ = ลักษณะดำแดง เตี้ยแคระ ดวงตาโต ผมหยิกหยักศก ดุร้ายและกร้าว ร้าวยิ่งกว่าอังคารหรือเกตุแท้ ๆ
๒๒. ดาว ๔-๕ พุธผสมพฤหัสบดี = ลักษณะเป็นคนขาวบางร่างโปร่ง มีแผลเป็นที่บริเวณหน้าผาก แม้จะมีรูปพฤหัสบดีชัด ๆ แต่ก็การพูดจาไม่เป็นที่เชื่อถือ เพราะเป็นรูปผสมกับพุธ ซึ่งเป็นดาวเปลี่ยนแปลงไม่มีความแน่นอน
๒๓. ดาว ๔-๖ พุธผสมศุกร์ = ลักษณะท้วม ผิวเนื้อขาวบาง แต่บางทีไม่ขาวนัก ดวงหน้ายาว
๒๔.ดาว ๔-๗ พุธผสมเสาร์ = โดยมากมักไม่ค่อยมีลักษณะพุธเจือปน  เนื่องดาวพุธไกลโลก กระแสที่ส่งมาจึงอ่อนมากไม่อาจจะต้านทานกำลังของดาวร้ายไหว ดังนั้นเมื่อพุธผสมเสาร์ หรือราหู หรือเกตุ ลักษณะของพุธจึงแทบไม่มีที่สังเกตได้เลย
๒๕. ดาว ๔-๘ พุธผสมราหู = แบบเดียวกับพุธผสมเสาร์
๒๖.  ดาว ๔-๙ พุธผสมเกตุ = แบบเดียวกับพุธผสมเสาร์
๒๗. ดาว ๕-๖ พฤหัสบดีผสมศุกร์ = ลักษณะเป็นคนผิวขาวร่างท้วม และมีแผลเป็นอยู่บริเวณหน้าผาก พฤหัสบดีผสมศุกร์นี้ ทำให้ศุกร์เป็นคนเด่นมีเสน่ห์ในทางมารยาทความประพฤติขึ้นอีก ปกติศุกร์ก็เป็นดาวดีชั้นรองจากพฤหัสบดีอยู่แล้ว เมื่อดาวดีต่อดาวดีผสมกันเช่นนี้ จึงไม่ต้องสงสัยว่าความดีนั้น จะไม่ดีเด่นยิ่งขึ้นไปอีก
๒๘. ดาว ๕-๗  ๕-๘  ๕-๙  พฤหัสบดีผสมกับเสาร์ ราหู เกตุ  =  ทำให้ดาวร้ายเหล่านั้นมีอานุภาพลดน้อยถอยลงไปอย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง
๒๙. ดาว ๖-๗  ๖-๘  ๖-๙  ศุกร์ผสมกับเสาร์ ราหู เกตุ  = ทำให้ดาวร้ายเหล่านั้นมีอานุภาพลดน้อยลงไปอย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง

สำหรับ ๐ มฤตยูผสมกับดาวอะไรก็ตาม = มักจะผสมสร้างความแปลกประหลาดให้กับดวงดาวนั้นไม่เพิ่มเติมก็บกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้า ๐ มฤตยูไปผสมกับดาวเคราะห์ใด อยู่ในราศีส่วนมือ หรือเท้า แก่ลัคนา ก็มักทำให้ส่วน มือ หรือเท้ามีส่วนเกินหรือบกพร่อง เช่น มี นิ้วเกิน หรือนิ้วขาด หรือมี ติ่ง ปูด โป เนื้องอก หรือบางที เป็นโรคเรื้อรัง บาดแผล เป็นต้น

คู่ครอง หรือ ปัตนิ 3

คู่ครอง (ปัตนิ) กับเจ้าเรือน



        ถ้าดาวเจ้าเรือนปัตนิในดวงชาตากำเนิด  ไปได้ตำแหน่งต่าง ๆ เราก็จะหาคำพยากรณ์ได้ดังนี้

  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิ ได้ตำแหน่งเกษตร – จะได้คู่ครองเป็นหลักฐาน ทางฐานะสมบัติ เป็นคู่ครองที่แท้จริงชนิดบุพเพสันนิวาส อยู่กินด้วยกันจนแก่เฒ่า
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็นประ – เป็นคนอาภัพในเรื่องคู่ คือได้คู่ที่ไม่สมใจตน มีนิสัยไม่ดี ฐานะต่ำกว่าตนหรือเป็นคนกำพร้าเป็นต้น
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็นอุจ-มหาอุจ – เป็นผู้มีวาสนาในเรื่องคู่  คือได้คู่ที่มีศีลธรรมคุณธรรม หรือมีคู่ที่สูงด้วยตระกูลอำนาจวาสนา
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็นนิจ  -- ต่ำต้อยน้อยหน้าในเรื่องคู่  คือมีคู่ฐานะต่ำกว่าตน หรือมีนิสัยปากร้ายใจอำมหิต เช่น เอาคนใช้ในบ้านเป็นคู่ หรือเอาคนขับรถเป็นคู่
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็น อุจจาวิลาส หรือ ราชาโชค – คู่ครองจะมีมาเอง โดยไม่ต้องไปแสวงหา และจะเป็นสง่า มีหน้ามีตา คนรักใคร่นิยมด้วยอำนาจคู่ครอง  เช่น หญิงชาวนาได้เป็นภรรยาของมหาเศรษฐี ชายยากจนได้บุตรสาวรัฐมนตรี หญิงเข็ญใจได้ตำแหน่งมเหสี เป็นต้น
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็น มหาจักร – จะได้คู่ที่ยิ่งใหญ่ คล้ายอุจจาวิลาส หรือ ราชาโชค ผิดกันแต่ว่ากว่าจะได้คางแทบเหลือง คือถูกกีดกันจากพ่อแม่ หรือหมู่ญาติของคู่ครองหรือมิฉะนั้น ตัวเองจะต้องใช้ความพยายามเป็นอันมาก
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็น โยค กับดาวคู่มิตร – คู่ครองมีความเข้มแข็งทางใดทางหนึ่งพอที่จะพึ่งกันได้ (ดูตามอำนาจของดาวและเรือนชาตาที่มาเป็นโยค)
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็น ตรีโกณ กับดาวคู่มิตร – จะได้คู่ครองเป็นหลักในทางใดทางหนึ่ง เช่น มีการงานเป็นหลัก มีสมบัติเป็นหลักบ้าง (ดูตามดวงดาวและเรือนชาตาที่มีมาตรีโกณ)
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็นองค์เกณฑ์ – จะได้คู่ครองที่ถาวร กินอยู่ด้วยกันยั่งยืนนาน และเมื่อมีคู่แล้วก็จะเขยิบฐานะขึ้น มีแค่ ๑ หมื่นบาท ก็จะเพิ่มเป็น ๒-๓ หมื่น ยิ่งๆขึ้นไป
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งเป็นอุดมเกณฑ์   -- จะมีภรรยารวย หรือมีภรรยามาก และจะมีเรื่อย ๆ ไม่ขาดเอาทีเดียว
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งร่วมกับดาวคู่มิตร –คู่ครองรักใคร่กันดี ช่วยเกื้อกูลหนุนนำกันดี ไม่ย่อท้อถอยหลัง จะมีคู่สักทีก็มีคนคอยจัดแจงหาให้โดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่งร่วมกับดาวคู่ศัตรู -- จะมีคู่มักจะประสบกับอุปสรรคขัดขวาง หรือถึงมีแล้วก็ไม่ค่อยจะถูกกันคอยขัดกันอยู่เสมอ (ขัดกันในด้านใด ก็เอาเรือนชาตามาจับดู  เช่น ร่วมกับเรือนกัมมะ ก็ทางการงาน ถ้าร่วมกับกฎุพะ  ก็ทางการเงิน หรือถ้าเป็นดาวพุธกับราหู ก็ขัดกันในเรื่อง ปากเสียง  ถ้าอาทิตย์กับอังคาร ก็ทางชู้สาว เป็นต้น)
  • ดาวเจ้าเรือนปัตนิได้ตำแหน่ง เป็นคู่ธาตุ คู่สมพล – จะส่งเสริมในด้านกำลังดีขึ้น เช่น ๑-๗ ร่วมกัน มักจะไม่ค่อยถูกกัน แต่ทะเลาะกันก็ยิ่งดี ยิ่งมีการทำมาค้าขายมากเข้า  แต่ถ้าไม่ทะเลาะกันแล้ว ก็ไม่มีปัญญาทำมาหากิน ถ้า ๑-๖ ร่วมกัน มักเก็บเงินคนละกระเป๋า ต่างคนต่างหาตระหนี่เสียด้วย เลยทำให้มั่งมี   

         นอกจากนี้ ถึงแม้เรือนชาตาอื่น ๆ ถ้าได้ตำแหน่งเช่นนี้ ก็เป็นไปทำนองเดียวกัน นอกจากนี้จะเป็นไปตามอำนาจของเรือนชาตาแล้ว ยังเป็นไปตามอำนาจของดวงดาวอีก-
      เช่น ดาวจันทร์ หรือศุกร์ กุม ลัคนา ทำให้มีเสน่ห์ และถ้าได้ตำแหน่งราชาโชคอีกด้วยความเป็นเสน่ห์นั้นก็มีมากขึ้น แต่ถ้าได้ตำแหน่งเสีย คือ ประ หรือ นิจ ก็ทำให้ลดลงไปเป็นลำดับ ถ้าดาวพฤหัสบดี ได้ตำแหน่งเกษตร หรือราชาโชค จะทำให้เด่นในด้านปัญญาความรู้ แต่ถ้าได้ตำแหน่งเสีย เช่น ประ นิจ ก็จะทำให้ตกต่ำ ถึงมีความรู้ก็หาเด่นไม่  ขาดความเคารพเชื่อถือ ความรู้นั้นไม่ได้ประโยชน์อะไรเท่าใดนัก