วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความหมายของภพ

ความหมายของภพ
ภพ เรียกตามไทยว่า เรือนชาตา มีอยู่ ๑๒ เรือน หรือ ๑๒ ภพ เมื่อคำนวณดวงชาตา วางลัคนาเรียบร้อยแล้ว ให้ถือเอาภพที่ลัคนาสถิต เป็นภพที่ ๑ แล้วนับเวียนซ้ายเรียงลำดับกันไป ซึ่งมีความหมายแต่ละภพ ดังนี้


๑.   ตนุ        แปลว่า ตัวตน             -  ได้แก่ รูปร่าง สภาพของบุคคล นิสัย ความประพฤติ จริต กิริยา สุขภาพ อนามัย ที่อยู่อาศัย (ตัวตน หมายถึง ตั้งแต่ศีรษะจนจรดเท้า)
๒.   กฎุมพะ  แปลว่า สมบัติ            -  ได้แก่ ทรัพย์สินเงินทอง ที่อื่นๆ เรียกว่า ศูนย์พาหะคือทำให้เกิดกำลัง หรือหมายถึงครอบครัวก็ได้
๓.   สหัชชะ   แปลว่า เกิดร่วมกัน      -  ได้แก่ เพื่อน คนใกล้ชิด พี่น้องที่เกิดท้องเดียวกัน เรื่องเพื่อนต้องหมายถึงการษมาคม ทางสากลจึงหมายเอาถึงการเขียนจดหมาย การเดินทางใกล้ๆ ได้อีก
๔.   พันธุ      แปลว่า ที่ติดเนื่องกัน   -  ได้แก่ สิ่งที่ติดเนื่องมากับเจ้าชาตาเวลาเกิด เช่น บ้าน ที่ดิน พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ทางภารตะหมายถึงความสุขทั่วๆ ไป การศึกาและยานพาหนะ
๕.   ปุตตะ     แปลว่า การดื่ม ความยินดี
                                                -  ได้แก่ บุตร ธิดา บริวาร ควรหมายถึงความรัก สถานที่รื่นเริงบันเทิงใจ ความรู้สึกทางกามารมณ์ โชคลาภที่เกิดขึ้นเกินความคาดฝัน
๖.   อริ         แปลว่า ศัตรู               -  ได้แก่ ผู้คิดร้าย อุปสรรค โรคภัยไข้เจ็บ ทางภารตะหมายถึง หนี้สิน ภัยที่เกิดจากโจร ความทุกข์ระทม
๗.   ปัตนิ      แปลว่า สิ่งตรงข้าม      -  ได้แก่ คู่ครอง การสมรส และยังหมายถึงการเซ็นสัญญาการติดต่อธุรกิจ การเดินทางได้อีก และคดีความด้วย
๘.   มรณะ    แปลว่า การตาย          -  ได้แก่ การแตกทำลาย การสูญเสีย การแปรสภาพ และยังหมายถึงสิ่งตายๆ เช่น มรดก พินัยกรรม ความสุดสิ้นของโรคภัยไข้เจ็บ เครื่องหมายทางเพศ
๙.   ศุภะ       แปลว่า ความสวยงาม   -  ได้แก่ ความสงบเรียบร้อย ได้แก่การงานภายในบ้าน ที่อยู่อาศัย การดำเนินชีวิต การเดินทางไกล เช่น ต่างประเทศ ความเคารพเชื่อถือ
๑๐. กัมมะ     แปลว่า การงาน          -  ได้แก่ อาชีพ งานอดิเรก ตำแหน่งกรรมเก่าที่ตนสร้างมาแต่อดีตชาติ
๑๑. ลาภะ     แปลว่า การได้           -  ได้แก่ โชค ความสำเร็จ เพื่อนหรือผู้ให้ความช่วยเหลือ อำนาจที่อยู่เหนือเจ้าชาตา
๑๒. วินาศ     แปลว่า ความฉิบหาย    -  ได้แก่ ความวิบัติ การจองจำกักขัง ศัตรูลับ การทดยศหักหลัง ความอึดอัดใจ การสุลุ่ยสุร่าย บาปนรก

ดวงชาตาเปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่
               เมื่อเราทราบแล้วว่า ดวงชาคือแผนที่ชีวิต สำหรับบุคคลหนึ่งๆ ว่าจะมีชีวิตเป็นไปอย่างไร จะมีบุญวาสนาหรือมีกรรมแค่ไหน จะรุ่งโรจน์ หรือคับแค้น เป็นต้น ซึ่งมีลัคนาสถิตเป็นจุดสำคัญ หมายถึงร่างกายของคนเราทั้งร่างกาย เปรียบเทียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ๆ หนึ่งต้น ประกอบไปด้วย รากแก้ว แก่น ใบ ดอกเกสร ผล เปลือก กิ่ง สิ่งที่คอยทำลาย คือ ตัวมอด หรือด้วง ฉะนั้นจึงนำมาเปรียบเทียบให้ดูพอสังเขป ดังนี้
               ลัคนา       -  หมายถึง    ลำต้นรวมทั้งหมด
               อาทิตย์     -  หมายถึง    รากแก้ว เป็นหลักของชีวิต ถ้าดีการดำเนินชีวิตก็เข้มแข็ง ก้าวหน้าแน่นหนา ไม่คลอนแคลน ถ้าเสีย ชีวิตก็ขึ้นๆ ลงๆ
               จันทร์       -  หมายถึง    แก่น หรือดวงใจ ถ้าดีก็สดชื่น หอมหวาน เช่นแก่นจันทร์ ถ้าเสียก็เข้าตำรา ว่าข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง หรือสวยแต่รูปจูบไม่หอม
               อังคาร      -  หมายถึง    ใบ คือหมายถึงอำนาจ ได้แก่ความสามารถเข้มแข็งที่ปกคลุมให้ความร่มเย็น ถ้าดีก็มีคนยำเกรงมาก ถ้าเสียก็หมดอำนาจปราศจากความเข้มแข็งหาคนเคารพยำเกรงมิได้
               พุธ           -  หมายถึง    ดอกเกสร คือ หมายถึงคำพูด หรือสำเนียงที่เปล่งออกจากปาก ถ้าดีปากเป็นเงินเป็นทอง ถ้าเสียก็ปากเสียเงินเสียทอง
               พฤหัสบดี  -  หมายถึง    ผล คือ หมายถึงสิ่งที่สำเร็จมาจากความคิด หรือกระทำถ้าดีก็มีคนเลื่อมใสมาก มีคนถวายข้าวปลาอาหารให้รับประทานบริบูรณ์ ถ้าเสีย ก็อดอยากปากแห้ง
               ศุกร์         -  หมายถึง เปลือก คือ หมายถึงสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ถ้าดีก็ดูสวยสดงดงาม น่าปรารถนาน่าพอใจ ถ้าเสียก็น่าเกลียดชังหาคนรักใคร่ที่แท้จริงมิได้
               เสาร์         -  หมายถึง    กิ่ง คือ หมายถึงสิ่งที่ยื่นออกไป คือการงามสมบัติ ถ้าดีก็มีไร่นาสาโทมากมาย ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ถ้าเสียก็เป็นคนคับแค้นเอาแต่ได้
               ราหู         -  หมายถึง    ตัวมอดตัวด้วง คือ หมายถึงสิ่งที่คอยทำลาย อยู่กับอะไรก็คอยทำลายส่วนนั้น อยู่กับรากก็กัดราก อยู่กับแก่นกัดแก่น อยู่กับใบกัดใบ เป็นต้น

หลักพยากรณ์
               ๑.   ถ้ากล่าวกันถึงหลักการพยากรณ์ที่แม่นยำแล้ว พูดกันไม่กี่มากน้อยก็หมด แต่สมัยเดี๋ยวนี้คนเราชอบให้พยากรณ์มากๆ
               ๒.   อิทธิพลของราหูมีอยู่ว่า ถ้าพูดมากก็ฝอยมาก ถ้าพยากรณ์มากก็ยิ่งผิดมาก

ราศีเปรียบเทียบกับส่วนต่างๆ ของร่ายกาย
               ตัวท่านบูรพาจารย์ได้กำหนดราศีเปรียบเทียบกับส่วนต่างๆ ของร่างกายคนเราโดยกำหนดราศีเมาถึงราศีมีน เทียบส่วนอวัยวะจากศีรษะลงมาถึงเท้าตามลำดับดังนี้ :-
               ราศี เมษ          หรือราศี  ๐          แสดงความตรงกับ       ศีรษะ
               ราศี พฤศภ       หรือราศี  ๑          แสดงความตรงกับ       หน้าผาก
               ราศี มิถุน         หรือราศี  ๒         แสดงความตรงกับ       ทรวงอก
               ราศี กรกฎ        หรือราศี  ๓         แสดงความตรงกับ       หัวใจ
               ราศี สิงห์          หรือราศี  ๔         แสดงความตรงกับ       ท้อง
               ราศี กันย์         หรือราศี  ๕         แสดงความตรงกับ       สะเอว
               ราศี ตุลย์         หรือราศี  ๖          แสดงความตรงกับ       กระเพาะและลำไส้
               ราศี พิจิก         หรือราศี  ๗         แสดงความตรงกับ       ของลับ
               ราศี ธนู           หรือราศี  ๘         แสดงความตรงกับ       ต้นขา
               ราศี มังกร        หรือราศี  ๙         แสดงความตรงกับ       เข่าและแข้ง
               ราศี กุมภ์         หรือราศี  ๑๐        แสดงความตรงกับ       ข้อเท้า
               ราศี มีน           หรือราศี  ๑๑        แสดงความตรงกับ       เท้า-นิ้วเท้า
               ความหมายของราศีซึ่งเปรียบเทียบส่วนต่างๆ ของร่างกายนั้น ไม่เป็นของตายตัว สำหรับดวงชาตาของบุคคล ถ้าหากดวงชาตานั้นเฉพาะลัคนาอยู่ราศีเมษ จึงจะมีความหมายตรงตามนั้น คือ ศีรษะ ถ้าหากลัคนาอยู่ราศีอื่น ส่วนศีรษะและส่วนอื่นก็เปลี่ยนไป เช่น ลัคนาอยู่ราศีตุลย์ เราก็คิดราศีตุลย์ เหมือนราศีเมษ แล้วหมุนราศีต่างๆ ตามไปด้วย เมื่อลัคนาอยู่ราศีตุลย์ เป็นตนุคือตัวตนรวมทั้งร่างกาย เฉพาะเบื้องสูงของร่างกายนั้น ต้องตรงกับลัคนาอยู่เสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น